ทดลองเทรดวันแรกตะกุกตะกักมากมาย
เริ่มจากการใช้เทคนิคผิด ศึกษามากมายพอลงสนามจริง ทฤษฏีมันก็ตีกันมั่วไปหมด
เริ่มแรกพีชมองชาร์ตแพทเทิร์นว่า กำลังทำ downtrend symmetry triangle
ดังนั้นจึงตัดสินใจเปิดสัญญา sell open ที่ 713.60 (ณ high ที่ 2 ในเส้นแนวต้าน)
และวางเป้าหมายการปิดสัญญาที่ 712.60 ตามกราฟข้างล่าง
และเมื่อราคาเดินทางมาถึง 713.60 ก็พยายามจะปิดสัญญาแต่เพราะมันคือการเทรดครั้งแรก
เราไม่รู้ว่าปิดสัญญาทำยังไง จึงเลือกคำสั่ง sell close ที่ 713.60 อยู่หลายครั้งแค่ก็ขึ้น error มาตลอด
คราวนี้เริ่มลนเพราะราคาเริ่มดีดกลับจาก 713.50 - 713.60 - 713.70 - 713.80
เห็นท่าจะแย่แล้วเลยโทรมามาร์เก้ตติ้ง เลยได้คำแนะนำมาว่า วิธีปิดสัญญาต้องส่งคำสั่ง
buy close เพื่อซื้อคืนและปิดสัญญา และการ buy ต้องซื้อฝั่ง offer ทำให้ได้ปิดสัญญาที่ 713.90
นั่นแปลว่าขาดทุนค่าธรรมเนียมไปตามระเบียบประมาณร้อยกว่าบาท
คราวนี้เรามาดูบทเฉลยของ stochastic กันดีกว่า
เริ่มแรกคือ วงกลมสีเขียวอันแรก บอกสัญญาณการจบขาลงแล้ว
ดูได้จาก stochastic ทำ higher low คือราคาลง แต่ sto ไม่ลงตาม
เพราะฉะนั้นเราจะเอาทฤษฎี downtrend symmetrical triangle มาใช้ไม่ได้แล้ว
และแน่นอน pattern ต่อไปจะไม่เกิด high ที่สามเพื่อลงต่อ อย่างที่เราคาดไว้
แต่เป็นการจบ wave 2 ตามทฤษฎี elliotwave ต่างหาก
และถ้าสังเกตให้ดี จะเห็นว่า sto ไดเวอร์เจนชุดแรก ไม่ได้ทำรูปแบบ symmetrical triangle
เหมือนกับตัว price pattern แต่ sto ทำ new high (เราโดนหลอกอีกแล้ว)
และตามมาด้วย sto ไดเวอร์เจนครั้งที่สอง การทำ higher low อีกครั้งเพื่อประกาศว่า
ขาลงของ wave 2 ได้จบลงแล้วนะ และเมื่อจบเวฟ 2 ก่อนปิดตลาด แน่นอนว่า
เปิดบ่ายมาจะเข้าสู่ big uptrend ของ wave 3 อย่างแน่นอน
และเดาจาก price pattern แล้วคาดว่า wave 3 ทำคลื่นยืดครบ 5 ขาแล้ว
พรุ่งนี้วันที่ 10 มกรา ต่ามอัตราส่วน fibo น่าจะบวกเพิ่มได้อีกไม่เกิน 2 จุด
จากนั้น ราคาจะพักฐานเพื่อทำ wave 4 แล้วค่อยขึ้นต่อ (เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้)
สรุปสถานะวันแรกของการเทรด ปิดลบเล็กๆ จากการขาดทุนค่าธรรมเนียมจ้า
แต่ก็ได้ศึกษาความผิดพลาดของตัวเองแล้ว ว่าอ่อนสุดๆ 555+ มองเทรนผิด
และเมื่อผิดก็เกิดอาการลนจึงตัดสินใจนั่งดูเฉยๆ (ตามจิตวิทยาการเทรด ว่างั้น )
ประสบการณ์วันนี้ทำให้นึกถึงสำนวนที่ว่า เงินทองมีกองท่วมเข่า ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเอามันมาได้หรือเปล่า
ผลวันนี้คือ ไม่ได้ค่ะ -*-
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น